Tokyo Subway ห้าสายหลักในโตเกียว รู้ไว้เที่ยวได้จุใจกว่าที่คิด 🚅
เมื่อพูดถึงการเที่ยวในกรุงโตเกียวแล้ว การใช้ Tokyo Subway ถือเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และประหยัดที่สุดวิธีหนึ่ง ทั้งยังสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้มากมาย โดย Tokyo Subway นั้นประกอบไปด้วยหลายสายที่เชื่อมต่อไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ในกรุงโตเกียว แต่วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Tokyo Subway ห้าสายหลักในโตเกียว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสนุกและสะดวกสบายยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น สายสีชมพูกุหลาบ Toei Asakusa Line (A), สายสีส้ม Ginza Line (G), สายสีเทา Hibiya Line (H), สายสีแดง Marunouchi Line (M), และ สายสีน้ำตาล Fukutoshin Line (F) งานนี้มาดูกันนะคะ ว่า Tokyo Subway ทั้งสี่สายนี้จะสามารถพาคุณไปที่ไหนได้บ้าง!
1.สายสีชมพูกุหลาบ Toei Asakusa Line (A)
สายสีชมพูกุหลาบ Toei Asakusa Line (A) เป็นสายที่มีการเชื่อมต่อกับสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ทำให้การเดินทางระหว่างเมืองและสนามบินสะดวกยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางนอกจากนี้ยังเป็นสายที่เชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ของโตเกียวเช่น โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และ วัดอาซากุสะ (Sensoji Temple)
โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) : สัญลักษณ์สำคัญของโอชิอาเงะหนีไม่พ้นโตเกียวสกายทรี ซึ่งเป็นอาคารประเภท "หอคอย" ที่สูงที่สุดในโลกประมาณ 634 เมตร เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2012 โดยส่วนใหญ่แล้วคนจะนิยมมาชมวิวเมืองโตเกียวและถ่ายรูปกัน โดยที่โตเกียวสกายทรีจะมีจุดชมวิวเมืองโตเกียวได้แบบ 360 องศาภายในเมฆ
อยู่ 2 ระดับ คือจุด Tembo Deck ที่ความสูง 350 เมตร และ Tembo Galleria ที่ความสูง 450 เมตรวัดอาซากุสะ (Sensoji Temple) : วัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานนับพันปีในย่านอาซากุสะ ที่มีความเชื่อว่าหากได้ไปกราบไหว้ถึงวัด ไม่ว่าจะขออะไรก็สมปรารถนา โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ โคมแดง ที่คนจะแวะเวียนมาถ่ายรูปเช็กอินกัน โดยสำหรับคนที่จองที่พักอยู่ที่ Hostel Inn Tokyo Asakusa East เรียกได้ว่าตอบโจทย์ที่สุด เพราะการเดินทางจะสะดวกมาก
วัดอาซากุสะ (Sensoji Temple)
2.สายสีส้ม Ginza Line (G)
สายสีส้ม Ginza Line เป็นหนึ่งในสายที่เก่าแก่ที่สุดของ Tokyo Subway และเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดหากคุณต้องการเข้าถึงย่านช้อปปิ้งและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม โดย Tokyo Subway สายนี้เชื่อมต่อกับย่านสำคัญต่าง ๆ ของโตเกียวเช่น ชิบูย่า (Shibuya) และ กินซ่า (Ginza) ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสัน
ชิบูย่า (Shibuya) : จุดท่องเที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวขาช้อปตัวจริงต้องมาสัมผัส มาพร้อมแลนด์มาร์กหลายจุดไม่ว่าจะเป็น ห้าแยกชิบูย่า จุดถ่ายรูปสุดชิคที่ภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องต้องถ่ายที่นี่ และที่สำคัญห้างสรรพสินค้าที่นี่ครบครันมาก มีให้ช้อปกันแบบลายตาเลยทีเดียว
กินซ่า (Ginza) : ย่านช้อปปิ้งหรูที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลก และร้านอาหารรสเลิศ โดยถ้าใครอยากจะมาช้อปพวกของแบรนด์เนมดัง ๆ
ชิบูย่า (Shibuya)
3.สายสีเทา Hibiya Line (H)
Tokyo Subway สายสีเทา Hibiya Line เป็นอีกหนึ่งสายที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทั้งในย่านกลางเมืองและย่านเงียบสงบของโตเกียว เพราะ Tokyo Subway สายนี้สามารถพาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รปปงหงิ ไปจนถึงที่อุเอโนะเลยทีเดียว
รปปงหงิ (Roppongi) : ย่านนี้เป็นย่านที่ตอบโจทย์ทุกคนไม่ว่าคุณจะชอบไปช้อปปิ้ง ชอบเยี่ยมชมงานศิลปะ หรือเที่ยวกลางคืน เพราะที่นี่จะมีทั้ง โตเกียวมิดทาวน์, ศูนย์ศิลปะแห่งชาติโตเกียว ไปจนถึงคลับต่าง ๆ มากมาย สำหรับคนที่อยากเอนจอยชีวิตในยามค่ำคืน
อุเอโนะ (Ueno) : ภายในย่านนี้จะมีทั้งสวนสาธารณะสำหรับคนที่อยากแวะมาสัมผัสธรรมชาติ ชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไปจนถึงคนรักสัตว์นี่ห้ามพลาด สถานที่สำคัญอย่างสวนสัตว์อุเอโนะ สวนสัตว์ที่เก่าแก่น่าแวะเวียนมาชมความน่ารักของน้อง ๆ
อุเอโนะ (Ueno)
4.สายสีแดง Marunouchi Line (M)
Tokyo Subway สาย Marunouchi Line เป็นอีกหนึ่งสายหลักที่นักท่องเที่ยวควรรู้จัก เพราะเชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในโตเกียว ไม่ว่าจะเป็นสวนโคระคุเอ็น ไปจนถึงโซนอิเคบุคุโระเช่นกัน
สวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็น (Koishikawa Korakuen) : สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโตเกียวเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงฤดูใบไม้ผลิยิ่งเป็นที่นิยมมาก
อิเคบุคุโระ (Ikebukuro) : จุดหมายที่น่าสนใจสำหรับการช้อปปิ้ง หาร้านอาหาร ตลอดจนความบันเทิงแบบครบครัน
โดยห้างใหญ่ ๆ ก็จะมี "ห้างสรรพสินค้าโทบุ" และ "ห้างสรรพสินค้าเซบุ" ให้แวะเวียนเยี่ยมชมกัน
สวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็น (Koishikawa Korakuen)
5.สายสีน้ำตาล Fukutoshin Line (F)
Tokyo Subway สาย Fukutoshin Line ก็ถือว่าเป็นอีกสายนึงที่คนนิยมใช้กันมาก เพราะเชื่อมต่อกับโซนสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลายแห่ง เช่น ฮาราจูกุ (Harajuku) และ คาบูกิโจ ย่านบันเทิงยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับ
ฮาราจูกุ (Harajuku) : เหมาะกับผู้ที่หลงใหลและสนใจในแฟชั่นสไตล์คาวาอี้ของญี่ปุ่น เพราะที่นี่เพื่อน ๆ จะพบเห็นเหล่าวัยรุ่นที่แต่งตัวสไตล์โลลิต้าที่สวมใส่ชุดเดรสเดินกันมากมาย ไปจนถึงคนที่แต่งตัวคอสเพลย์ในฮาราจูกุ เรียกได้ว่าสมชื่อเป็นเมืองแห่งแฟชั่นจริง ๆ สำหรับใครที่สนใจอยากลองแต่งตามดูก็ลองได้นะคะ เพราะร้านค้าแนวแฟชั่นต่าง ๆ นี่มีให้เพื่อน ๆ เลือกกันแบบจุใจแน่นอน
คาบูกิโจ (Kabukicho) : ย่านบันเทิงยามค่ำคืนที่ตั้งอยู่ในเขตชินจูกุ (Shinjuku) ของกรุงโตเกียว และได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองที่ไม่เคยหลับ" เนื่องจากมีกิจกรรมและความบันเทิงต่าง ๆ ตลอดทั้งคืน ที่นี่มีทั้งบาร์, คลับ, คาราโอเกะ, ร้านอาหาร, และโรงแรมหลากหลายสไตล์ ที่ดึงดูดทั้งชาวต่างชาติและคนญี่ปุ่นเองให้มาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย
คาบูกิโจ (Kabukicho)
สุดท้ายนี้สำหรับคนที่พึ่งได้มาท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก อาจจะคิดว่าการเที่ยวในโตเกียวอาจดูเหมือนซับซ้อนด้วยจำนวนสายรถไฟใต้ดินที่มากมาย แต่หากคุณเข้าใจเส้นทางหลักทั้งสี่สายนี้ คุณจะสามารถเข้าถึงย่านท่องเที่ยวหลัก ๆ ได้อย่างง่ายดาย และทำให้การเดินทางในโตเกียวของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญหากคุณกำลังมองหาที่พักดี ๆ เดินทางสะดวกแล้วล่ะก็ อย่าลืมเลือกที่พักที่สะดวกในการเดินทางแบบ Hostel Inn Tokyo Asakusa East เพื่อให้การท่องเที่ยวของคุณไร้กังวลและเต็มไปด้วยความสุข ไม่ว่าคุณจะมาเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือมาพักผ่อนใจกลางเมือง ที่พักญี่ปุ่นอย่าง Hostel Inn Tokyo Asakusa East ก็จะพร้อมต้อนรับคุณเสมอ
ดูสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ https://hostel-inn.co/th-th/location
ดูห้องพักซูพิเรียร์ ควีน https://hostel-inn.co/th-th/rooms/superior-queen
ดูห้องพักซูพิเรียร์ ทวิน https://hostel-inn.co/th-th/rooms/superior-twin